บรรดาผู้ที่มีความยุติธรรมในหมู่คนที่มีตำแหน่งชื่อเสียงในสังคมเมื่อได้ศึกษาชีวประวัติของท่านศาสดาแล้วพวกเขาไม่มีทางอื่นนอกจากยอมรับความประเสริฐ สูงส่ง และการเป็นผู้นำของท่านศาสดา และนี่เป็นส่วนหนึ่งของคำพูดของพวกเขา..
เกาะขอบโลก :-> คำพูดของชาวตะวันตกที่มีต่อท่านบีมูฮัมหมัด
บรรดาผู้ที่มีความยุติธรรมในหมู่คนที่มีตำแหน่งชื่อเสียงในสังคมเมื่อได้ศึกษาชีวประวัติของท่านศาสดาแล้วพวกเขาไม่มีทางอื่นนอกจากยอมรับความประเสริฐ สูงส่ง และการเป็นผู้นำของท่านศาสดา และนี่เป็นส่วนหนึ่งของคำพูดของพวกเขา..
1. ไมเคิล ฮาร์ต ได้กล่าวในหนังสือของเขาที่ชื่อ “ผู้ที่มีชีวิตอยู่ตลอดกาล หนึ่งร้อยคน”หน้า13 และได้ตั้งให้ท่านนบีเป็นคนแรกในหนึ่งร้อยคนนี้ ว่า “แท้จริงฉันได้เลือกให้มูฮัมหมัด-ขออัลลอฮฺทรงให้ความสันติสุขแด่ท่าน-ให้เป็นคนแรกในบรรดาคนเหล่านี้ เนื่องจากท่านนบีเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดทั้งในเรื่องศาสนาและทางโลก..ซึ่งท่านได้เชิญชวนเผยแพร่จนศาสนาอิสลามได้กลายเป็นหนึ่งในศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลก และท่านเองได้กลายเป็นผู้นำทางการเมืองการปกครอง ทางทหาร และทางศาสนา..ถึงแม้ท่านจะจากไปเป็นเวลามากกว่า13 ศตวรรษแล้วแต่ผลงานของท่านยังคงยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องเสมอมาจนถึงปัจจุบัน”
2. นายเบอร์นาร์ด ชอว์ ชาวอังกฤษได้แต่งหนังสือชื่อว่า “มูฮัมหมัด” และทางการอังกฤษได้เผาทำลายหนังสือเล่มนี้ เขากล่าวว่า “แท้จริงแล้วโลกนี้ต้องการคนที่มีความคิดอย่างมูฮัมหมัด...และเนื่องจากการไร้การศึกษาและความคิดคับแคบที่มีอยู่ในสมัยศตวรรษตอนกลางของยุโรปบรรดานักบวชของศาสนาคริสต์ได้วาดภาพอันมืดมัวและน่ากลัวต่อศาสนามูฮัมหมัด..พวกเขาถือว่ามูฮัมหมัดเป็นศัตรูต่อศาสนาคริสต์..แต่หลังจากที่ฉันได้ศึกษาชีวประวัติของคนคนนี้แล้ว ฉันได้เจอกับสิ่งมหัสจรรย์มากมาย และได้พบว่าเขามิได้เป็นศัตรูของศาสนาคริสต์แต่เขาเปรียบเสมือนผู้ที่ปลดปล่อยมนุษยชาติ..และฉันคิดว่าในปัจจุบันถ้าคนผู้นี้กลับมานำโลกนี้แล้ว เขาจะสามารถแก้ปัญหาของมนุษย์ได้โดยที่เขาจะนำสันติภาพและความสงบสุขอันเป็นความหวังทั้งมวลของมนุษยชาติได้”
3. แอน บิเซตได้กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ได้ศึกษาชีวิตและตัวตนของนบีของคนอาหรับผู้นี้และศึกษาว่าเขาได้ใช้ชีวิตอย่างไร ได้สอนสั่งคนอย่างไร ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องรู้สึกทึ่งและให้เกียรติยกย่องนบีที่ประเสริฐผู้นี้ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาศาสนทูตที่ยิ่งใหญ่
4. นักปรัชญาชาวอังกฤษชื่อ โทมัส การ์ลิลผู้ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ได้กล่าวไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ “เหล่าวีรบุรุษ” ว่า “มันเป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างมากถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งในสมัยปัจจุบันเชื่อว่าศาสนาอิสลามนั้นหลอกลวงและมูฮัมหมัดเป็นคนโกหกปั้นเรื่อง แท้จริงเราได้เห็นแล้วว่าเขามีอุดมการณ์ที่เข้มแข็ง ซื่อสัตย์ในแนวทาง ใจบุญและประเสริฐ เมตตา ยำเกรง สูงส่ง อิสระ สุภาพบุรุษ แน่วแน่ จริงใจ และนอกจากนั้นเขายังเป็นคนง่ายๆนอบน้อมถ่อมตน เป็นที่รักของคนทั่วไป...คนที่ได้รู้จักต่างชื่นชม...มีความเป็นมิตรกันเอง..และแม้แต่หยอกล้อล้อเล่น....เขาเป็นผู้ที่มีความยุติธรรม...ซื่อสัตย์จุดมุ่งหมาย..ฉลาดปราดเปรื่อง..มีจิตใจที่มั่นคง...ปฏิภาณไหวพริบที่รวดเร็ว..เสมือนว่าระหว่างหน้าผากเขานั้นได้มีตะเกียงส่องแสงสว่างแม้ในค่ำคืนที่มืดมิด..เสมือนรัสมีที่เต็มวง..บุรุษทิ่ยิ่งใหญ่ด้วยธรรมชาติของเขาเองโดยไม่ต้องมีโรงเรียนใดสอนเขา..โดยไม่มีครูคนไหนอบรม...สิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นสำหรับเขา..
5. นักวรรณคดีชาวเยอรมันที่ชื่อ ยูทาฮ์ ได้กล่าวว่า “แท้จริงแล้วเราชาวยุโรปด้วยความรู้ทั้งมวลที่เรามีนั้น เรายังไม่สามารถที่จะไปถึงสิ่งที่มูฮัมหมัดไปถึง...และจะไม่มีผู้ใดไปถึง...และหลังจากที่ฉันได้ศึกษาจากประวัติศาสตร์เพื่อค้นหาแบบอย่างอันดีเลิศต่อมนุษยชาตินั้น ฉันได้พบแล้วนั่นคือศาสดามูฮัมหมัด...และเช่นนี้เองที่สัจธรรมจำเป็นต้องปรากฏและสูงส่ง..เหมือนกับที่มูฮัมหมัดได้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำโลกด้วยคำว่า “เตาฮีด” (เอกภาพของอัลลอฮ์ ผู้แปล)
แปลและเรียบเรียงโดย อบู อุบัยย์